Entrepreneur Mindset และ STEAM: หัวใจของการศึกษาแห่งศตวรรษที่ 21
Entrepreneur Mindset และ STEAM: หัวใจของทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
1. ทำไมแค่เก่ง…ถึงไม่พอ
แค่เก่งเลข เก่งวิทย์ เก่งคอมฯ หรือมี “ทักษะเฉพาะทาง” ไม่ใช่ตั๋วผ่านประตูสู่ความสำเร็จอีกต่อไป โลกศตวรรษที่ 21 ไม่ได้ต้องการเพียง “คนทำงานเก่ง” แต่ต้องการ “คนสร้างสรรค์สิ่งใหม่” คนที่ล้มได้ ลุกไว มองเห็นโอกาสในความโกลาหล และเปลี่ยนมันเป็นคุณค่าบางอย่าง
2. Entrepreneurial Mindset: กรอบความคิดที่กล้าเริ่ม กล้าเสี่ยง กล้าล้ม
Entrepreneurial Mindset หรือ “กรอบความคิดแบบผู้ประกอบการ” คือรากฐานที่สำคัญของผู้เปลี่ยนเกม ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจ วิศวกร ครู พยาบาล หรือแม้แต่นักเรียน มันคือทัศนคติที่มองปัญหาเป็นโอกาส ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค เรียนรู้จากความผิดพลาด และพร้อมจะเริ่มใหม่ได้เสมอ
ทำไมคำว่า Entrepreneur ถึงผูกกับ “การเป็นผู้ประกอบการ”
-
รากศัพท์และประวัติศาสตร์
เดิมทีคำว่า entrepreneur (จากภาษาฝรั่งเศส) หมายถึง “คนที่เริ่มต้นหรือทำสิ่งใหม่” โดยเฉพาะในบริบทของธุรกิจ ซึ่งมักหมายถึงคนที่กล้าเสี่ยง ลงทุน ลงแรง เพื่อสร้างกิจการใหม่ ๆ-
ในทางเศรษฐศาสตร์ยุคแรก ๆ เช่นของ Schumpeter หรือ Say ที่พูดถึง “การแสวงหาผลกำไร” (Profit Seeking) เพราะผู้ประกอบการเป็นผู้เปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาธุรกิจโดยหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนจากความเสี่ยงและนวัตกรรม
-
-
การเปลี่ยนผ่านของความหมาย
สังคมปัจจุบัน คำว่า “ผู้ประกอบการ” ถูกขยายความให้กว้างขึ้น ไม่ได้หมายถึงแค่ “ผู้แสวงหากำไร” (profit-oriented) เท่านั้น แต่รวมถึงคนที่-
สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม (social entrepreneur)
-
แก้ปัญหาในชุมชน
-
ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
-
แม้กระทั่ง “ผู้ประกอบการในองค์กร” (intrapreneur) ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกิจการเอง
-
กรอบความคิดของ Entrepreneur อยู่ภายใต้การแสวงหากำไรเท่านั้นไหม?
ไม่จำเป็น
-
เดิมทีการแสวงหากำไรเป็นแรงขับหลัก (และยังสำคัญมากสำหรับธุรกิจ)
-
แต่ปัจจุบัน กรอบความคิดผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Mindset) หมายถึง “ความกล้าที่จะคิดใหม่ ลงมือทำจริง รับความเสี่ยง ปรับตัวกับความไม่แน่นอน และสร้างคุณค่า (value creation)” ซึ่งคุณค่านี้ อาจเป็นกำไร เงิน หรืออาจเป็นคุณค่าทางสังคมก็ได้
ตัวอย่าง:
-
Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม) มุ่งเน้นผลลัพธ์ทางสังคมควบคู่กับความยั่งยืนทางการเงิน
-
นวัตกรรมภาครัฐหรือองค์กรไม่แสวงหากำไร ก็ใช้แนวคิดผู้ประกอบการเพื่อแก้ปัญหาหรือเพิ่มประสิทธิภาพ
สรุป:
-
“Entrepreneur” ถูกเชื่อมโยงกับ “การสร้างกิจการและการแสวงหากำไร” เพราะรากฐานแนวคิดมาจากเศรษฐศาสตร์
-
แต่ทุกวันนี้ “ความเป็นผู้ประกอบการ” เน้นการสร้างคุณค่า (Value Creation) ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม
-
ใครก็ตามที่ “คิดใหม่ กล้าทำ กล้าเสี่ยง แก้ปัญหา สร้างคุณค่า” ก็นับว่าเป็นผู้ประกอบการได้ แม้ไม่ต้องมีเป้าหมายเรื่องกำไรสูงสุด
สิ่งนี้คือ “หัวใจ” ของความสำเร็จในโลกยุคใหม่ เพราะโลกนี้ไม่ใช่ของคนที่ “รู้มาก” แต่เป็นของคนที่ “ลุกเร็ว และกล้าลอง”
3. STEAM: เมื่อความรู้ต้องมีศิลปะและหัวใจ
ในขณะที่ STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เคยถูกมองว่าเป็นเส้นทางหลักของการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจยุคใหม่ โลกก็เริ่มตั้งคำถามว่า “แล้วความคิดสร้างสรรค์ล่ะ?” นั่นคือจุดเริ่มต้นของ STEAM – การผนวก “Arts” หรือศิลปะเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
STEAM ไม่ได้หมายถึงแค่การวาดรูปหรือดนตรีเท่านั้น แต่หมายถึง “การคิดเชิงออกแบบ” (design thinking) จินตนาการ สุนทรียภาพ ความเข้าใจมนุษย์ และทักษะการสื่อสาร เพราะนวัตกรรมที่แท้จริงมักเกิดขึ้นตรงจุดตัดของศาสตร์กับศิลป์
🔍 จาก STEM สู่ STEAM: จุดเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลง
STEM เป็นแนวคิดที่เน้นการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนในการเผชิญกับความท้าทายทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจในอนาคต
STEAM เกิดขึ้นเมื่อมีการตระหนักว่า การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต้องการมากกว่าความรู้ทางเทคนิค โดยต้องรวมถึงความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มาจากการศึกษาในด้านศิลปะ
🎨 เหตุผลในการเพิ่ม "A" (Arts) ใน STEAM
-
เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์: การศึกษาในด้านศิลปะช่วยพัฒนาความสามารถในการคิดนอกกรอบและการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
-
การเรียนรู้ที่หลากหลาย: การรวมศิลปะเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยให้การเรียนรู้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น ทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมและเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น
-
การสื่อสารและการนำเสนอ: ทักษะทางศิลปะช่วยให้นักเรียนสามารถสื่อสารความคิดและแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการนำเสนอที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ
4. เมื่อ Entrepreneurial Mindset และ STEAM มาบรรจบกัน
จินตนาการว่า…
-
วิศวกรที่มองเห็นปัญหาสังคม ไม่ใช่แค่ “ซ่อม” แต่ “สร้างสรรค์” สิ่งใหม่
-
ครูที่ไม่เพียงแต่สอนสูตรสำเร็จ แต่ปลูกฝังการตั้งคำถามและคิดต่าง
-
เด็กนักเรียนที่กล้าลองผิด ล้มเหลว แล้ว “เริ่มใหม่” ด้วยความหวังและความคิดสร้างสรรค์
นี่คือจุดตัดของ Entrepreneurial Mindset และ STEAM – พื้นที่ที่คนธรรมดากลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก ไม่ใช่เพราะเขามีทุกอย่างพร้อม แต่เพราะเขา “กล้าเริ่ม” และ “กล้าคิด”
5. โลกใหม่…ต้องการ “มนุษย์เต็มคน”
ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ไม่ใช่แค่ “รู้มาก” แต่ต้อง “เข้าใจลึก”
ไม่ใช่แค่ “ทำงานได้” แต่ต้อง “สร้างสรรค์ได้”
ไม่ใช่แค่ “แข่งกับคนอื่น” แต่ต้อง “เอาชนะตัวเอง”
และทั้งหมดนี้…เริ่มจากกรอบความคิดที่เปิดกว้าง พร้อมเรียนรู้ เติบโต และกล้าเปลี่ยนแปลง
บทที่ 6: Designing New Learning Environments to Support 21st Century Skills โดย Bob Pearlman
กล่าวถึงการออกแบบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่สนับสนุนทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งรวมถึงการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning) และการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน-
บทที่ 11: Innovation Through Technology โดย Cheryl Lemke
เน้นการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล
เนื้อหาเหล่านี้สอดคล้องกับแนวคิดของ STEM ที่เน้นการบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ในการศึกษา
💡 เกี่ยวข้องกับ Entrepreneurial Mindset
แม้คำว่า "Entrepreneurship" จะไม่ปรากฏในชื่อบท แต่หนังสือได้กล่าวถึงแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับกรอบความคิดแบบผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Mindset) เช่น:
-
บทที่ 8: Problem-Based Learning: The Foundation for 21st Century Skills โดย John Barell
เน้นการเรียนรู้ที่มีปัญหาเป็นฐาน ซึ่งส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการตัดสินใจ—ทักษะที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ -
บทที่ 9: Cooperative Learning and Conflict Resolution: Essential 21st Century Skills โดย David W. Johnson และ Roger T. Johnson
กล่าวถึงการเรียนรู้แบบร่วมมือและการแก้ไขความขัดแย้ง ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานเป็นทีมและการเป็นผู้นำ
เนื้อหาเหล่านี้สะท้อนถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะและกรอบความคิดที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน
Comments
Post a Comment